สไลด์โชว์

วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

สดุดี พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา วีรบุรุษสู้โจรใต้


นับเป็นข่าวเศร้าของวงการสีกากี และประเทศชาติ ที่ต้องสูญเสียนายตำรวจมือดี ผู้เสียสละต่อสู้กับโจรใต้มาเป็นเวลาหลายปี อย่าง พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา หรือ จ่าเพียร ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา

โดยเมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ต้องพลีชีพจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดไว้ใต้ถนน ระหว่างที่รถของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา แล่นผ่านมา ขณะเดินทางไปเยี่ยมเยียนชาวบ้าน ก่อนที่ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา จะเสียชีวิต เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว และมีลูกน้องอีก 3 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส

ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา เพิ่งตกเป็นข่าว หลังเข้าร้องเรียนกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถึงเรื่องความไม่เป็นธรรมของการโยกย้ายข้าราชการตำรวจ แต่ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา กลับต้องมาจบชีวิตลงก่อนจะเกษียณอายุราชการในปีนี้ วันนี้กระปุกดอทคอม จึงจะพาไปย้อนประวัติของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา เพื่อไว้อาลัยและสดุดีวีรบุรุษคนกล้ากันค่ะ

พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา เป็นชาวสงขลา ได้รับฉายาหลายชื่อ เช่น "จ่าเพียร นักสู้แห่งเทือกเขาบูโด" ,"จ่าเพียรมือปราบ" และ "จ่าเพียรขาเหล็ก" ซึ่งหมายถึง การที่ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ยึดการลาดตระเวนด้วยเท้าเป็นหลักในการปฏิบัติหน้าที่ จนปัจจุบันแม้จะมียศเป็น พ.ต.อ.แต่ชาวบ้านก็ยังเรียก "จ่าเพียร"

โดย พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา เข้ารับราชการครั้งแรก หลังจบโรงเรียนตำรวจภูธร 9 เมื่อปี พ.ศ.2513 และเป็น ผบ.หมู่ ผ.สภ.บันนังสตา มาตลอด ขณะปฏิบัติราชการนั้น พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผ่านการปะทะกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบนับร้อยครั้ง วิสามัญคนร้ายได้นับร้อยศพ จนเป็นที่กลัวเกรงของกลุ่มคนร้าย และทำให้ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา มีชื่อเสียงในแวดวงตำรวจ

จากนั้นในปี พ.ศ.2519 พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ซึ่งยศในขณะนั้นคือ จ.ส.ต.สมเพียร เอกสมญา ถูกกับระเบิดที่ขาซ้ายจนเกือบขาด ขณะต่อสู้กับกลุ่มโจรก่อการร้าย นายลาเต๊ะ เจาะบันตัง แต่ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ก็เอาชีวิตมาได้ ต่อมาในปี พ.ศ.2526 พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ถูกคนร้ายยิงในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา จนได้รับบาดเจ็บกระสุนฝังใน

ด้วยความเก่งกล้าและจัดเป็นตำรวจฝีมือชั้นเยี่ยม ทำให้ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์รามาธิบดี และเหรียญมาลาเข็มกล้ากลางสมร (ร.ม.ก.) จนกระทั่งกรมตำรวจ (ในสมัยนั้น) อนุมัติให้ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา เข้าอบรมหลักสูตรนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรโดยไม่ต้องสอบคัดเลือก และได้เลื่อนขั้น พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา เป็น ร.ต.ต. ก่อนจะย้ายให้ไปประจำการอยู่ที่ จ.สงขลา
ก่อนที่ในปี พ.ศ. 2550 พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา จะถูกเรียกตัวกลับมาเป็น ผกก.สภ.บันนังสตา เพื่อปราบปรามกลุ่มโจรใต้ที่ก่อเหตุรายวัน ซึ่ง พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ก็ใช้ประสบการณ์ที่มีปราบปรามคนร้ายและวิสามัญได้ถึง 19 ราย และยึดอาวุธสงครามได้เป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ก็ถูกกลุ่มคนร้ายลอบโจมตีมาโดยตลอดเช่นกัน

ต่อมาเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 คนร้ายได้วางแผนลอบวางระเบิดหลายจุด เพื่อล่อให้ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา นำกำลังเดินทางเข้าไปที่เกิดเหตุ ก่อนที่คนร้ายจะลอบวางระเบิดรถกระบะที่นั่งอยู่ แต่เดชะบุญครั้งนั้น พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

ขณะที่ทางครอบครัวของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา เกิดความวิตกว่า พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา จะไม่ปลอดภัย จึงได้ถือเคล็ดเปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น "ภูวพงษ์พิทักษ์" เพื่อความเป็นสิริมงคล แต่ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ก็ขอกลับมาใช้นามสกุลเดิม

จากนั้นในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ได้เดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อร้องเรียนกรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับรอง ผบก.สว.ที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้ยื่นความจำนงขอพิจารณาโยกย้ายเป็น ผกก.สภ.กันตัง จ.ตรัง พื้นที่ของ บช.ภาค 9 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ว่างอยู่ ในปีสุดท้ายก่อนจะเกษียณอายุราชการ แต่ก็ไม่ได้รับการพิจารณา ครั้งนั้นผู้กำกับกระดูกเหล็ก ถึงกับหลั่งน้ำตา และเปิดใจว่า...

"รับราชการตำรวจมาร่วม 40 ปี และใช้ชีวิตอยู่ใน สภ.บันนังสตา มานานตั้งแต่สมัยชั้นประทวน ต่อสู้กับคนร้ายจนรอดตายมาหลายครั้ง ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็หลายหน ครั้งนี้รู้สึกเหนื่อยล้า และเป็นปีสุดท้ายก่อนจะเกษียณอายุราชการ จึงขอโยกย้ายออกนอกพื้นที่ไปอยู่บ้านภรรยาที่ตรัง และผู้บังคับบัญชารับปากจะพิจารณาให้ย้ายไปที่โรงพักดังกล่าว แต่พอคำสั่งแต่งตั้งมาปรากฎว่าไม่ได้ย้าย คงอยากจะทำเรื่องขอพระราชทานยศ พล.ต.อ.ให้ตนตอนตายแล้วมากกว่า" พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา เคยตัดพ้อไว้


แต่แล้วในวันที่ 12 มีนาคม ตำนาน "จ่าเพียร" มือปราบแห่งบันนังสตา ก็ต้องปิดฉากลงอย่างน่าเศร้า เมื่อ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดรถกระบะ คันเดียวกับที่ถูกวางระเบิดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จน พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ขาหักทั้งสองข้าง ได้รับบาดเจ็บสาหัสและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลาในที่สุด ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัว ประชาชนชาวบันนังสตา และเพื่อนร่วมงานของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อีกหลายคน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ทำให้อดคิดถึงคำพูดตัดพ้อน้อยใจคำหนึ่งของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ที่เคยกล่าวเอาไว้ และไม่มีใครคาดคิดว่าคำกล่าวนั้นจะกลายมาเป็นความจริง โดย พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา พูดไว้ว่า...

"ผมอยากกลับบ้านให้ลูกและภรรยาสบายใจในช่วงสุดท้ายของชีวิตราชการ แม้จะให้ยศพลตำรวจเอกผมก็ไม่อยากได้ ถ้าหากกลับบ้านแบบมีธงชาติคลุม"

ทีมงานเว็บไซต์กระปุกดอทคอม จึงขอสดุดีวีรกรรมของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ที่ช่วยรักษาปกป้องบ้านเมืองจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิตมา ณ ที่นี้ ขอให้ดวงวิญญาณของผู้กล้าไปสู่สุคติด้วยเทอญ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น